ไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท 40 (3/3/2562)




คอนเซ็ปต์: การผสมผสานระหว่างเทคโนโลยี และความเป็นธรรมชาติ (The Synthesis of Future and Nature)
บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
ไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท 40 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 40 (ระหว่างซอยสุขใจและซอยสมานฉันท์) ย่านเอกมัยใจกลางเมือง ใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอส เอกมัย ประมาณ 600 เมตร สามารถเดินทางเชื่อมต่อถนนสุขุมวิท และถนนพระราม 4 ได้อย่างสะดวก


ทำเลที่ตั้ง

หากใครอยู่ในทำเลนี้ ก็จะทราบกันดีอยู่แล้วว่า ซอยสุขุมวิท 40 ซึ่งเป็นทางเข้าของโครงการนี้ (ไม่ใช่ทางออก) จะเป็นถนนเดินรถทางเดียว (One way) ที่พามุ่งออกไปสู่ถนนพระราม 4
โดยเมื่อเข้ามาในซอยเลี้ยวซ้ายเข้าซอยย่อย คือ ซอยสุขใจ ก็จะถึงที่ตั้งของโครงการ ในซอยสุขใจสามารถเดินรถสวนกันได้ภายในซอยได้ ในส่วนของการเดินทางออกโครงการโดยรถยนต์ เมื่อเลี้ยวขวาออกจากโครงการภายในซอยสุขใจ และเลี้ยวซ้ายอีกทีก็จะออกถนนสุขุมวิทได้ผ่านทางซอยสุขุมวิท 42
บรรยากาศในซอยสุขใจ
บรรยากาศในซอยสมานฉันท์
ซึ่งหากต้องการเดินเท้ามาโครงการจากทาง BTS เอกมัย ทางทีมงาน Tooktee ก็แนะนำขอให้เข้าทางซอยสุขุมวิท 42 เช่นเดียวกัน เนื่องจากมีระยะทางประมาณ 600 จากสถานีรถไฟฟ้า (ถ้าเข้าทางปากซอยสุขุมวิท 40 เข้าโครงการจะใช้ระยะทางประมาณ 700 เมตร) อีกทั้งปากซอยยังมีคอมมูนิตี้มอลล์ Gate Way เอกมัย ให้ท่านได้ช้อปปิ้งก่อนทั้งไปและกลับด้วย 

ส่วนซอยสมานฉันท์ ที่เป็นซอยย่อยที่ขนานกับซอยสุขใจ จะเป็นทางออกสำรองของทางโครงการ
รูปถ่ายจากโมเดลของโครงการ

จุดเชื่อมต่อการเดินทางที่สำคัญ



ที่ตั้งโครงการอยู่ใกล้ทำเลรถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิท สถานีเอกมัย ประมาณ 600 เมตร การเดินทางโดยเท้าใช้ระยะเวลาประมาณ 7-8 นาที ผ่านทางซอยสุขุมวิท 42 ซึ่งการเชื่อมต่อสู่สถานีอโศก ที่เป็นสถานีเชื่อมต่อกับโครงข่ายรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) เพียง 4 สถานีเท่านั้น
สำหรับผู้ที่ขับรถเองเพื่อความสะดวกในการเดินทาง จะพบว่าสามารถเชื่อมต่อทางพิเศษเฉลิมมหานคร ผ่านถนนอาจณรงค์ได้
สรุประยะห่างจากจุดเชื่อมต่อสำคัญ

สถานที่สำคัญโดยรอบ

ที่ตั้งโครงการอยู่ในเมือง ซึ่งหากวิเคราะห์ทำเลแล้วจะพบว่า ทำเลสุขุมวิทฝั่งเลขคู่ค่อนข้างเงียบสงบมากกว่าฝั่งเลขคี่ ซึ่งได้แก่ สุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) สุขุมวิท 63 (เอกมัย) ซึ่งเป็นย่านบันเทิงกินดื่มอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งข้อดีคือ ทำให้ ย่านนี้ไม่พลุกพล่านเหมาะแก่การพักอาศัยแต่อย่างไรก็ตามทั้ง 2 ฝั่งก็นับได้ว่าอยู่ในทำเลเดียวกัน การที่จะข้ามไปฝั่งสุขุมวิทเลขคี่ก็นับว่าไม่ลำบากเลย 

สถานที่สำคัญต่างๆ รอบโครงการ หากพิจารณาภายในรัศมี 1.5 กิโลเมตร จะพบกับแหล่งช้อปปิ้งที่สำคัญในพื้นที่ คือเกตเวย์ เอกมัย ซึ่งอยู่บริเวณปากซอยสุขุมวิท 42 (ระยะเดิน 600 เมตร) และ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ สุขุมวิท ที่อยู่บริเวณปากซอยสุขุมวิท 63 (เอกมัย) ) ซึ่งหากเดินทางด้วยรถไฟฟ้านั่งเพียง 2 สถานี ก็จะถึงห้างสรรพสินค้าสุดหรูอย่าง เอ็มโพเรียม และ เอ็มควอเทียร์ 

นอกจากนั้นยังมีโรงพยาบาลในพื้นที่ คือ โรงพยาบาลสุขุมวิท โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท และโรงพยาบาลเทพธารินทร์ รวมไปถึงอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตกล้วยน้ำไท ซึ่งเป็นสถานอุดมศึกษาในพื้นที่ ซึ่งนับได้ว่าสิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่มีความครบครันรองรับการพักอาศัยจริงได้
ระยะห่างจากสถานที่สำคัญ (ระยะเดิน)


จุดเด่นของผังโครงการ

ออกแบบเล่นระดับได้อย่างดีระหว่างชั้น 1 และชั้น 2 รวมไปถึงมุมมองจากในอาคารมาสู่ชั้นล่าง ได้ความรู้สึกเขียวสดชื่น ตามแบบคอนเซ็ปต์ของโครงการ

สิ่งอำนวยความสะดวก

สิ่งอำนวยความสะดวกหลักของทางโครงการ จะอยู่บริเวณชั้น 2 ได้แก่ สระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส ห้องอบไอน้ำ และห้องซาวน่า ในส่วนชั้น 1 จะมีสวนความยาวประมาณ 80 เมตร นอกจากสระว่ายน้ำที่ชั้น 2 แล้วนั้น จุดเด่นของโครงการนี้คือ มีสระว่ายน้ำ 2 แห่ง อีกแห่งอยู่บริเวณชั้นดาดฟ้า ตำแหน่งอยู่ที่อาคาร B ในส่วนของอาคาร A จะเป็นสวนดาดฟ้าแทน (Garden roof) ซึ่งระหว่าง 2 อาคาร เฉพาะชั้นดาดฟ้าจะมีทางเดินเชื่อมระหว่างอาคารได้ 

ด้านที่จอดรถจะอยู่ที่เฉพาะชั้น 1 (ห้องพักจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 ถึงชั้น 8 ทั้ง 2 อาคาร) จำนวนที่จอดรถ จอดรถได้ประมาณ 54% ไม่รวมซ้อนคัน ลิฟต์โดยสารอาคารละ 2 ตัว รวม 2 อาคาร จำนวนลิฟต์ทั้งหมด 4 ตัว

รูปแบบห้อง


แบบห้องของทางโครงการจะ มีลักษณะ Type ใหญ่ การออกแบบห้องหน้ากว้างเป็นพิเศษ โดยเริ่มต้นที่ขนาด 34.9 ตร.ม. ที่เป็นแบบ 1 ห้องนอน ซึ่งหากแบ่งตามฟังก์ชั่นการใช้งาน รูปแบบห้องของทางโครงการสามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภท หลักๆ ได้แก่
  • 1 ห้องนอน ขนาดห้องประมาณ 34.9-47.5 ตารางเมตร แบบ A1-A5  360°
  • 1 ห้องนอน พลัส ขนาดห้องประมาณ 52.0 ตารางเมตร แบบ B1-B3
  • 2 ห้องนอน ขนาดห้องประมาณ 50.0-81.0 ตารางเมตร แบบ C1-C4
  • 3 ห้องนอน ขนาดห้องประมาณ 97.0 ตารางเมตร แบบ D1 (3 ห้องนอนมีห้องแบบเดียว)

1 ห้องนอน 34.9 ตร.ม. (Type A1)


รูปแบบ 1 ห้องนอน (แบบ A1) ซึ่งเป็นขนาดที่อยู่ในช่วงเริ่มต้นของทางโครงการ พื้นที่ใช้สอยจะมีการกั้นห้องนอนให้เป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น ซึ่งรูปแบบห้อง 1 ห้องนอนขนาด 34.9 ตร.ม. ของโครงการนี้ จะไม่มีระเบียง พื้นที่ส่วนที่เป็นระเบียงจะแทนที่ด้วยการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในตัวห้องแทน (แบบห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 41 ตร.ม.ขึ้นไปจะเริ่มมีระเบียงให้) โดย ความที่รูปแบบห้องที่หน้ากว้าง จะแบ่งพื้นที่ใช้สอยได้ถึง 3 ส่วน ได้แก่ ห้องนอน, ห้องแต่งตัว และห้องนั่งเล่น 

พิจารณาฟังก์ชั่นพื้นที่ใช้สอยห้องรูปแบบนี้ เมื่อเปิดประตูเข้าห้องเข้ามาจะพบกับพื้นที่ครัวแบบเปิด (Pantry) และพื้นที่ห้องนั่งเล่นที่มีหน้าต่างบานยาวประมาณ 2 เมตร เพื่อรับแสงและสะดวกต่อการเทควิวภายนอกห้อง 

ถัดมาจะเป็นในส่วนของห้องนอนที่มีประตูกั้นแยกจากห้องนั่งเล่น โดยก่อนถึงพื้นที่เตียงนอน จะมีพื้นที่ตู้เสื้อผ้าก่อน โดยพื้นที่นี้มีความกว้างประมาณ 1.6 เมตร ซึ่งพื้นที่นี้อาจปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงานเล็กๆ ได้ ในส่วนของห้องน้ำจะอยู่ภายในห้องนอนมีความเป็นส่วนตัว แต่อาจจะไม่สะดวกเวลามีแขกมาเยี่ยมได้

1 ห้องนอน พลัส 52.0 ตร.ม. (Type B1)


แบบขนาดใหญ่กว่า 1 ห้องนอน เพิ่มพื้นที่ฟังก์ชั่นห้องอเนกประสงค์ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องนอน หรือห้องทำงานได้ ซึ่งแบบห้องนี้จะไม่มีระเบียงเช่นเดียวกันแบบ 1 ห้องนอน (Type A1) นอกจากนั้นยังมีการเพิ่มฟังก์ชั่นห้องน้ำเพิ่มมาอีก 1 ห้อง รวมห้องรูปแบบนี้จะได้ห้องน้ำจำนวน 2 ห้อง 

พิจารณาฟังก์ชั่นพื้นที่ใช้สอยเมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องจะพบครัวเปิด (Pantry) ก่อนลำดับแรก ถัดมาจะเป็นพื้นที่วางโต๊ะทานอาหารและห้องนั่งเล่น เข้ามาสู่บริเวณส่วนกลางห้อง จะเป็นห้องอเนกประสงค์และห้องน้ำ ซึ่งหมายความว่าห้องอเนกประสงค์จะไม่มีห้องน้ำอยู่ในตัวห้อง ในลำดับส่วนในสุดจะเป็นห้องนอนซึ่งมีห้องน้ำอยู่ภายในตัว สร้างความเป็นส่วนตัว เวลามีแขกมาเยี่ยมที่ห้องได้ 

โดยหากพิจารณาภาพรวมห้องแบบ B1 B2 และ B3 ซึ่งเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนพลัสทั้งหมดนี้ ฟังก์ชั่นการใช้งานค่อนข้างใกล้เคียงกัน คือ เป็น พื้นที่ครัว/ห้องนั่งเล่น -> ห้องอเนกประสงค์ -> และห้องนอน

2 ห้องนอน 52.5 ตร.ม. (Type C1)


แบบห้อง 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ซึ่งห้องรูปแบบ 2 ห้องนอนจะอยู่ตำแหน่งห้องมุมทั้งหมด ภายในห้องนอนใหญ่ จะมีห้องน้ำอยู่ภายในตัว พร้อมอ่างอาบน้ำ (Bath tub) 

ซึ่งเมื่อเปิดประตูเข้ามาภายในห้องก็จะเป็นพื้นที่ครัวเปิด (Pantry) คล้ายๆ กับรูปแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่จะเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น และพื้นที่รับประทานอาหาร 

โดยจะเห็นได้ว่าพื้นที่บริเวณห้องนั่งเล่นจะกว้างกว่าห้องแบบ 1 ห้องนอน ถึงเกือบ 2 เท่า ถัดจากห้องนั่งเล่นจะเป็นห้องนอนที่ 2 (ห้องนอนที่พื้นที่น้อยกว่า Master Bedroom) ตรงข้ามห้องนอน 2 จะเป็นห้องน้ำ และห้องลำดับถัดมาจะเป็นห้องนอนใหญ่ (Master Bedroom) จะอยู่ด้านในสุดของตัวห้อง พร้อมห้องน้ำภายในตัว 

ซึ่งห้องรูปแบบนี้ เหมาะแก่กลุ่มผู้พักอาศัย 2-3 คน หรือกลุ่มครอบครัวที่มีเด็กเล็ก รวมไปถึงกลุ่มที่ต้องการห้องเพิ่มเพื่อทำเป็นห้องทำงาน หรือห้องอ่านหนังสือก็ได้

3 ห้องนอน 97.0 ตร.ม. (Type D1)


รูปแบบห้องที่ใหญ่ที่สุดของโครงการนี้ จุดเด่นของห้องรูปแบบนี้จะเป็นห้องมุมเปิดทั้ง 3 ด้าน เนื่องจากอยู่บริเวณปลายอาคาร ทำให้ทุกห้องนอนสามารถเทควิวได้โดยมีเพียงชั้นละ 1 ห้อง (รวม 2 อาคาร ประมาณ 14 ห้อง)
ฟังก์ชั่นพื้นที่ใช้สอยแบบ 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ซึ่งหมายความว่าทุกห้องจะมีห้องน้ำภายในตัว โดยห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ (Master Bedroom) จะมีอ่างอาบน้ำอยู่ภายในห้องด้วย นอกจากนี้พื้นที่ภายในห้องนอนใหญ่จะมีห้องแต่งตัวที่เป็นฟังก์ชั่นพื้นที่ใช้สอยเพิ่มเติมมา 

รูปแบบห้อง 3 ห้องนอน เมื่อเข้าประตูมาจะเป็นครัวเปิด (Pantry) เมื่อเดินเข้ามาภายในห้องจะเป็นห้องนั่งเล่น และพื้นที่รับประทานอาหาร โดยห้องนอนใหญ่ (Master Bedroom) และห้องนอนลำดับที่ 2-3 จะแยกฝั่งซ้ายขวากัน 

รูปแบบและขนาดห้อง 3 ห้องนอนโครงการนี้ เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ รวมไปถึงผู้ที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยมากเป็นพิเศษ ทั้งนี้ราคาค่าตัวอยู่ที่เริ่มต้นประมาณ 15.9 ล้านบาท ซึ่งหากพิจารณาทำเลและขนาดห้องที่ขนาดพื้นที่ที่ได้รับ เหมาะแก่การพักอาศัยแบบอยู่ยาวนั้น ก็นับได้ว่าราคาก็มีความเหมาะสมทีเดียว

จุดเด่นของโครงการ

1. การออกแบบ


การออกแบบภายในตัวห้องมีฟังก์ชั่นรวมไปถึงพื้นที่การใช้งาน กว้างขวางเหมาะแก่การอยู่จริงอีกทั้งแนวทางการออกแบบของโครงการจะพัฒนาเป็นห้องรูปแบบที่ไม่มีระเบียงเสียส่วนใหญ่ ซึ่งมีข้อดี คือ ได้เพิ่มพื้นที่ใช้สอยจาก บริเวณปรับอากาศ (Air conditioning area) มากขึ้น ทำให้สามารถได้ใช้ประโยชน์ของพื้นที่ทุกตารางนิ้ว 

พอมาถึงส่วนนี้หลายคนอาจเกิดคำถามสงสัยว่า “แล้วฉันจะตากผ้าอย่างไร” ซึ่งทางโครงการจึงมีการออกแบบช่องประตูเปิดเป็นพื้นที่วางตู้แอร์หรือคอยล์ร้อน ที่เปิดประตูได้จากห้องนั่งเล่น ทั้งนี้สามารถดัดแปลงพื้นที่ว่างที่เหลือส่วนด้านบนตู้แอร์ตากผ้าได้ แต่อย่างไรก็ตามรูปแบบการใช้งานอาจจะไม่เหมาะสมเช่นเดียวกับการตากที่ระเบียง แต่ก็แลกมากับการได้พื้นที่ใช้สอยเพิ่มมากขึ้น
ตัวอย่างช่องประตูเปิดเป็นพื้นที่วางตู้แอร์ ของห้อง 1 ห้องนอน
นอกจากนี้ สิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ มีการออกแบบมาให้เน้นพื้นที่สีเขียว มีความร่มรื่น สบายตา
ภาพสามมิติ การออกแบบพื้นที่ส่วนกลางในโครงการ

2. เทคโนโลยีที่นำมาใช้


ด้วยนวัตกรรมการใช้โซล่าเซลล์ เพื่อดึงพลังงานแสงอาทิตย์ ที่เป็นพลังงานสะอาด ร่วมกับระบบหมุนเวียนอากาศในห้องพัก ซึ่งทางโครงการเรียกระบบนี้ว่า Smart Solar Fresh Air เป็นต้นทุนของทางโครงการที่ทำเพิ่มให้ลูกค้า 

โดยลูกค้าจะได้ประโยชน์จากระบบนี้ คือ เมื่อมีการควบคุมการไหลเวียนอากาศ ทำให้ ลดอุณหภูมิภายในห้อง (ไม่ร้อน) ช่วยทำให้แอร์ไม่ทำงานหนักในการเปิดช่วงแรก นอกจากนั้นยังช่วยใน การระบายอากาศ (ควบคุมความชื้น) ทำให้เฟอร์นิเจอร์ รวมไปถึงพื้นภายในห้อง เสื่อมอายุการใช้งานช้าลง ไม้ไม่บวม และยังช่วยลดการเติบโตของแบคทีเรียภายในห้องได้ 

ซึ่งทางโครงการได้เลือกระบบหมุนเวียนอากาศยี่ห้อ Nortis Energy ที่สามารถสั่งงานเปิด-ปิดระบบผ่านแอพพลิเคชั่น Life Smart Application ได้

3. ทำเลที่ตั้ง

จุดเด่นที่สำคัญที่สุด คือเรื่อง ด้านทำเลที่ตั้ง ซึ่งที่ตั้งโครงการอยู่ทำเลในเมือง และใกล้แนวรถไฟฟ้าสาย BTS เส้นสุขุมวิท ที่เป็นแนวรถไฟฟ้าสายแรกของประเทศไทย (เปิดใช้งานตั้งแต่ปี 2542) การพัฒนาโครงข่ายในปัจจุบัน มีการพัฒนาส่วนต่อขยายออกจากใจกลางเมืองสู่พื้นที่รอบนอกกรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่อง ทำให้ทำเลแนวรถไฟฟ้าดั้งเดิมหรือรถไฟฟ้า BTS เส้นสุขุมวิทนี้ จะเริ่มมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นการซื้อทำเลในอนาคตได้อย่างดี 

จากทำเลที่เหมาะแก่การลงทุน รวมไปถึงการออกแบบพื้นที่ใช้สอยที่สามารถจับกลุ่มสร้างครอบครัวได้ ซึ่งหากพิจารณาราคาเริ่มต้นของทางโครงการอยู่ที่ประมาณ 4.99 ล้านบาท (ห้องแบบ 1 ห้องนอน) หรือราคาเริ่มต้นตร.ม.ละ 14x,xxx บาท (ราคาวันที่ 3/3/2562) รูปแบบห้องแบบ Fully Furnished (แถมครัว เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน และเครื่องปรับอากาศ) 

ซึ่งขณะนี้ทางโครงการไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท 40 อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และกำหนดการแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่ที่ประมาณ เดือนกรกฎาคม – สิงหาคม 2562 (ปีนี้) 

ท่านใดอ่านรีวิวและสนใจชมห้องตัวอย่างของโครงการ สามารถเข้าไปติดต่อได้ที่สำนักงานขาย (ชั่วคราว) ตั้งอยู่ในศูนย์การค้าเกตเวย์ เอกมัย ชั้น 3 ได้ตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น. ทุกวัน
เรื่องการเดินทาง เมื่อมาถึงเกตเวย์ เอกมัยแล้ว
  • (1) ให้ขึ้นบันไดเลื่อนโถงบริเวณตรงกลางศูนย์การค้ามาชั้นที่ 3
  • (2) เมื่อถึงชั้นที่ 3 เบี่ยงซ้ายเล็กน้อย ด้านขวาจะเป็นธนาคารไทยพาณิชย์
  • (3) เดินมาเรื่อยๆ ถัดมาจะเป็นสำนักงานขายของโครงการตั้งอยู่ฝั่งขวามือ

หากใครชื่นชอบ หรือจะส่งต่อบทความรีวิวโครงการไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท 40 ก็สามารถกดปุ่มแชร์ข้างล่างได้เลยครับ 
ที่มา: https://www.tooktee.com/content/detail/1597 ไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหว ติดตาม Tooktee (ทุกที่) ผ่านโซเชียลมีเดีย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตรวจสอบสีผังเมืองง่าย ๆ ผังเมือง กทม. 2556 ร่างผังเมืองใหม่

เปิดราคา 8 บ้านพักคนชรา บ้านผู้สูงอายุ อัพเดทล่าสุด2019! เตรียมเงินไว้